วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๕
วันนี้เราจะเดินไปที่ St.Michael’s Mount ซึ่งเป็นปราสาทที่สร้างอยู่บนเกาะ ในทะเล
มีทางเดินจากฝั่งเชื่อมถึงเกาะด้วย แต่ถ้าน้ำขึ้น เราจะต้องนั่งเรือแทน
อากาศดีทีเดียววันนี้ ท้องฟ้าสีฟ้าเข้ม
เห็นเกาะอยู่ไกลๆ ใช่ไหมครับ นั่นแหละ St.Michael’s Mount
ตอนนี้เราก็อยู่ประมาณเกือบครึ่งทาง
ทางเดินริมทะเล (ที่ไม่ค่อยมีหาดทราย) และเมือง Penzance ที่เราพักอยู่
ใกล้เข้ามาแล้ว ทรายเริ่มเยอะขึ้น
ระหว่างทางนี้ มีเหตุการณ์ที่จะเปลี่ยนแปลงการเดินทางของเราไปตลอดกาล
นั่นก็คือ การค้นพบหิน ที่กลมเกลี้ยง ของวิน
อันเป็นที่มาของชื่อแก๊งเรา
เจ้านี่ครับ หินกลมๆ สัญลักษณ์ประจำแก๊ง
เดินมาไม่ถึงสองชั่วโมงดี ก็จะมาถึงเมืองชื่อ Marazion (อ่านว่า มา-รา-ไซนฺ)
วันนี้อากาศดีมาก และจะดีไปจนหมดทริปเรา นับว่าโชคดีสุดๆ
นั่งเรือแบบในรูปครับ ข้ามมา ครั้งละ ๒ ปอนด์ ต่อคน ไป-กลับ ก็ ๔ ปอนด์ เพราะน้ำขึ้นพอดี
มองย้อนกลับไป ก็จะเห็นว่ามีทางเดินที่ทำไว้ มีอายุหลายร้อยปีทีเดียว
เอาล่ะ เราเตรียมเดินขึ้นไปดูปราสาทด้านบนกันเลย
ขอเล่าตำนานปรัมปราของปราสาทแห่งนี้ซักหน่อย
เรื่องเล่าขานนี้ เป็นเวอร์ชันหนึ่งของแจ็คผู้ฆ่ายักษ์
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มียักษ์ซึ่งเป็นเจ้าของเกาะ นิสัยไม่ดี
หนุ่มน้อยชาวคอร์นวอล นามว่า แจ็ค ได้คิดแผนการที่จะฆ่ายักษ์ตนนี้
โดยการล่อให้ยักษ์ตกลงไปในหลุม ขนาดใหญ่ แล้วควักเอาหัวใจยักษ์ออกมา ซึ่งหัวใจยักษ์นี้ เป็นก้อนหินก้อนเล็กๆ รูปหัวใจ
ซึ่งไกด์บอกว่า เนื่องจากยักษ์เป็นคนไม่ดี หัวใจยักษ์จึงเล็กกระติ๋วเดียว เมื่อเทียบกับตัว
เอาล่ะ ออกจากโลกนิทานมาสู่โลกแห่งความจริงกัน
ปราสาทแห่งนี้ เป็นของท่าน Lord คนหนึ่ง ได้มรดกตกทอดกันมารุ่นสู่รุ่น
เป็นปราสาทที่อยู่จริง และท่าน Lord ผู้นี้เพิ่งมอบให้แก่ National Trust ซึ่งเป็นองค์กรที่ดูแลโบราณสถานต่างๆ ของสหราชอาณาจักร เมื่อห้าสิบ-หกสิบปีที่แล้ว
ปราสาทจึงอยู่ในสภาพที่ดีมาก มีการดูแลอย่างดี และเป็นปราสาทแรกที่ทำให้เราเห็นว่า เค้าทำให้คนอยู่ได้จริงๆ
ไม่ใช่ปราสาทที่มีแต่หิน เย็นๆ เหมือนหลายๆ ที่ทั่วไป
จากที่ดูรีวิวในพันทิพก่อนไปอยู่บ้าง ก็เห็นเค้าถ่ายรูปกันกับหินก้อนใหญ่นี้
เพราะเค้าเขียนว่าเป็นหัวใจยักษ์
แต่จากการไปฟังไกด์ที่อยู่ในปราสาทเล่าให้ฟัง เป็นตำนานปรัมปราด้านบน
จึงเข้าใจว่า มีการเข้าใจผิดเกิดขึ้นเล็กน้อย
หัวใจยักษ์ อยู่บนพื้น ไข่ไก่ก้มลงไปฟังเสียงหัวใจเต้นใหญ่เลย !
ยักษ์ที่ถูกควักหัวใจออกมา ฟังๆ ดูก็น่าสงสาร คุณ เห็น “ใจ” ยักษ์ กันบ้างรึเปล่าครับ 🙂
ดื่มด่ำกับบรรยากาศแล้วเราก็มา ชักภาพ ร่วมกันซะหน่อย
ภายในปราสาท ให้คนอยู่ได้จริงๆ
จากปราสาท มองไปเห็นท่าเทียบเรือ และทางเดิน ที่เค้าเรียกกันว่า Causeway เชื่อมแผ่นดินใหญ่ มีเมือง มาราไซน์ ให้เห็นอยู่ลิบๆ กั้นตรงกลางด้วยน้ำทะเลสีน้ำเงินเข้มมองขึ้นไป เห็นฟ้าสีครามสดใส ทำให้อยากหยุดเวลานี้เอาไว้จริงๆ
ดื่มด่ำกันพอสมควรแก่เวลา
เราก็มาลองชิมไอศกรีมอันเลื่องชื่อของคอร์นวอล นั่นก็คือ Cornish Ice Cream ครับ
ไอศกรีมที่เค้าว่ากันว่าอร่อย ถามเหตุผลจากคนแถวนั้น เค้าบอกว่ามันมาจาก นม และครีม ที่เข้มข้นของคอร์นวอล เพราะวัวอยู่ห่างไกลจากมลพิษ มีความเป็นอยู่ที่ดี ผลิตภัณฑ์จากนม ก็เลยดีตามไปด้วย
ไอศกรีมยี่ห้อ Roskilly’s เป็นไอศกรีมชื่อดัง ที่กินแล้ว ก็ไม่ผิดหวัง ของเค้าอร่อยจริงๆครับ
จากมาราไซน์ เราก็นั่งรถเมล์ไปที่เมือง St.Ives (อ่านว่า เซนต์ ไอฟ์ซ)
เดินชมเมือง เมืองนี้เป็นเมืองที่มีร้านขนม และของที่ระลึกเยอะมาก
ไปเจอร้านขายชอคโกแลต ที่ทำรสชอคโกแลตแปลกๆ หนึ่งในนั้นคือรส Thai Curry
ด้วยความฉงนสนเท่ เราก็เลยไปขอเค้าซื้อหนึ่งอัน ราคา ๕๐p แต่เค้าคงเห็นเรายืนเลือกๆ อยู่นาน เพราะมันมีหลายรสชาติมาก
ก็เลยบอกว่าให้ชิมฟรี
อื้มม เราจะได้กินชอคโกแลตขาว รส Thai Curry แล้ว
กัดเข้าไป เฮือก… รสและกลิ่นตะไคร้แรงมาก
รสชาติแปล้มๆ สุดๆ มิน่าล่ะเห็นวางขายเต็มตู้ อาจจะเป็นด้วยเหตุผลนี้ เค้าเลยให้เราชิมฟรี
ใครไปแล้วเจอ ก็อย่าไปลองเข้านะ มันห่างไกลจากคำว่าอร่อย อยู่หลายขุมทีเดียว
เดินไปสักพัก สาวๆ อยากกิน Clotted Cream ซึ่งเป็นครีมข้น กินกับ Scone หรือขนมปังก้อน และ แยมสตรอเบอรี่
แน่นอนว่า ครีมข้นนี้ก็เป็นของขึ้นชื่ออีกอย่างของคอร์นวอลเช่นกัน
ชายหนุ่มอย่างพวกเรา ก็ไปนั่งดูสาวๆ สองคนกินกันอย่างเอร็ดอร่อย เพราะพวกเรายังอิ่มกันอยู่เลย
นี่ พิสูจน์แนวคิดที่ว่า ผู้หญิงกับของหวานเป็นของคู่กัน
ที่เมือง St.Ives นี่แหละ เราได้จองร้านอาหารทะเลเอาไว้
ครั้งหนึ่งในชีวิต ก็ขอกินอาหารทะเลแบบเต็มที่กันหน่อย
จริงๆ ก็ไม่ได้เต็มที่กันซักเท่าไหร่ เพราะพวกเราก็ใช่ว่าจะมีเบี้ยเยอะ
เอาเป็นว่า นานๆกินที ก็หมดกันไปราวๆ คนละ ๑๕ ปอนด์ เพราะสั่งหลายๆ อย่างมารวมกัน
ของเค้าสดดีหรอกครับ แต่คงจะเป็นวิธีการปรุง ที่ไม่ค่อยได้รสชาติเหมือนบ้านเรา
เราก็ลงความเห็นกันว่า ควรจะเก็บตังค์ไปกินอาหารทะเลที่ไทย คุ้มกว่าเยอะ !
เรียกว่า เมื่อวานเดินกันหน่อยอ่อน วันนี้เป็นวันพัก เที่ยวเล่น กินๆ ชมวิว
วันพรุ่งนี้ ก็จะเป็นวันเหนื่อย
แล้วมาติดตามอ่านกันต่อ กับหินกลมกลิ้งไปในคอร์นวอลตอน: “น่า” เดิน!